เบเกอร์ใช้เวลา 13 ปีในคุกคดีฆาตกรรมอัลเบิร์ต สโนว์บอลในปี 2548

เบเกอร์ใช้เวลา วัยรุ่นที่สารภาพว่าฆ่าชายคนหนึ่งแต่พ้นโทษจากการฆาตกรรมได้รับคำสั่งให้ขึ้นศาลและรับสารภาพภายใต้คำสาบาน

เบเกอร์ใช้เวลา คาลิด เบเกอร์กำลังจะเป็นวีรบุรุษของชาติในปี 2548 เมื่อถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมอัลเบิร์ต ดัดลีย์ สโนว์บอลชาย ชาว เมืองเพิร์ธ

รู้จักกันในนาม ‘ฆาตกรยิ้ม’ ใน เขตชานเมืองทางตะวันตกของ เมลเบิร์นซึ่งเขาเติบโตขึ้นมา คู่ครองของชายวัย 18 ปีในขณะนั้น ซึ่งไม่สามารถระบุชื่อได้ด้วยเหตุผลทางกฎหมาย รักษาไว้เป็นเวลานานว่ามีเพียงเขาคนเดียวที่ทำให้นายสโนว์บอลถึงแก่ชีวิต

ในวันจันทร์ที่ศาลฎีกาแห่งวิกตอเรียสั่งให้คู่ครองของเบเกอร์เข้าไปในกล่องพยานและพูดซ้ำสิ่งที่เขากล่าวอ้างอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะเกี่ยวกับเหตุการณ์ในคืนนั้น

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 เบเคอร์ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรมนายสโนว์บอลและถูกตัดสินจำคุก 17 ปีโดยมีระยะเวลาไม่รอลงอาญา 12 ปี

เด็กชายวัย 22 ปีโชคร้ายที่ต้องทะเลาะกับเพื่อนของเบเกอร์ในงานปาร์ตี้ที่เมืองบรันสวิกที่ทันสมัย

เขาตกลงไปสี่เมตรหลังจากถูกผลักผ่านหน้าต่าง และเสียชีวิตในโรงพยาบาลในอีกสองวันต่อมาจากอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ https://www.edmontondiscgolf.org/

นับตั้งแต่นั้นมา เขายังคงรักษาความบริสุทธิ์ โดยยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาของรัฐวิกตอเรียในปี 2010 และศาลสูงในปี 2555 ไม่ประสบผลสำเร็จ

ในเดือนพฤษภาคม เบเคอร์ยื่นอุทธรณ์อีกครั้งในศาลฎีกาของรัฐวิกตอเรียโดยอาศัย ‘หลักฐานที่ใหม่และน่าสนใจ’ ว่าผู้ถูกกล่าวหาร่วมของเขามีการกระทำเพียงอย่างเดียวที่ทำให้นายสโนว์บอลเสียชีวิต

เบเกอร์หวังว่า ‘แอลเอ็ม’ จะต้องเป็นที่รู้จักภายใต้กฎหมาย และเต็มใจที่จะขึ้นศาลเพื่อยอมรับการก่ออาชญากรรม โดยจะเคลียร์ชื่อของเบเกอร์ทันทีและตลอดไป

เพื่อนของเบเกอร์เสนอให้สารภาพว่ากระทำความผิดฐานฆาตกรรม แต่อัยการปฏิเสธข้อเสนอในขณะนั้นเพราะเบเกอร์ปฏิเสธที่จะทำเช่นเดียวกัน

เหตุการณ์เวอร์ชันของเบเกอร์ได้รับการสนับสนุนจากพยานตาสามคนในการพิจารณาคดีซึ่งอ้างว่าเขา ‘ไม่ได้อยู่ใกล้พวกเขาเมื่อมันเกิดขึ้น’

อันที่จริงนักมวยหนุ่มรายนี้ ‘ถูกคนอื่นกักขังในระดับต่อไป’ พยานคนหนึ่งอ้างว่า

พยานที่สนับสนุนเบเกอร์ทั้งหมดเป็น “คนดำ” โดยทนายความของ แอลเอ็ม เรียกร้องให้คณะลูกขุนพบว่า “พยานผิวขาว” เป็น “พยานแห่งความจริง”

คณะลูกขุนได้รับแจ้งว่าหลักฐานของ ‘พยานผิวดำ’ นั้น ‘ไม่ซื่อสัตย์… หรือหลบเลี่ยง’

แอลเอ็ม อ้อนวอนไม่ผิดในคดีฆาตกรรมและได้รับการปล่อยตัวจากคณะลูกขุน

แม้ว่าเขาจะไม่ถูกบังคับให้ให้ปากคำในการพิจารณาคดีครั้งแรกของเบเกอร์ แต่ศาลฎีกาพิพากษาว่าตอนนี้เขาสามารถเป็นได้

ศาลได้ยินว่า แอลเอ็ม อาจทำผิดกฎสองข้อของวิกตอเรียโดยการสารภาพในศาลที่เปิดกว้างต่ออาชญากรรม

กฎหมายซึ่งเคยกล่าวไว้ว่าไม่ควรมีใครถูกไต่สวนหรือลงโทษซ้ำ 2 ครั้งในความผิดแบบเดียวกัน ได้รับการปฏิรูปในปี 2554 โดยเปิดโอกาสให้มีการพิจารณาคดีครั้งใหม่เมื่อมีหลักฐานใหม่ที่น่าสนใจว่าผู้ที่เคยพ้นผิดจากอาชญากรรมร้ายแรงแล้ว รู้สึกผิด.

แอลเอ็ม ถูกปล่อยตัวแม้ว่าคณะลูกขุนจะได้ยินหลักฐานที่เขาบอกกับตำรวจในบันทึกการสัมภาษณ์ว่าเขา ‘คว้า’ และ ‘ผลัก’ คุณสโนว์บอลก่อนที่เขาจะออกไปทางหน้าต่าง และ ‘สันนิษฐาน’ เขาออกไปนอกหน้าต่างอันเป็นผลมาจาก ดัน. มวยไทย

ทนายความของเบเกอร์อ้างว่ากระบวนการยุติธรรมที่ผิดพลาดไปมาก ซึ่งทำให้เบเกอร์ต้องเสียไป 13 ปีจากปีที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา

ในเอกสารที่ยื่นต่อศาลฎีกาแห่งวิกตอเรีย ทีมกฎหมายของ เบเกอร์ ยื่นคำร้อง แอลเอ็ม ยอมรับว่าทั้งคู่ได้สัมผัสร่างกายครั้งสุดท้ายกับ มิสเตอร์สโนว์บอล และ เบเกอร์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือใกล้เคียงกับการสัมผัสทางกายภาพครั้งสุดท้าย

นับตั้งแต่การถูกคุมขังของเบเกอร์ แอลเอ็ม ได้ออกแถลงการณ์และดำเนินการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์กับ 60 นาที รายงานกฎหมาย และ เดอะ โปรเจค โดยยอมรับว่าเขาต้องรับผิดชอบ

แอลเอ็ม บอกเพื่อนของเขาในตอนนั้นว่าเขาเป็นคนผลักคุณสโนว์บอลออกไปทางหน้าต่าง

“ฉันผลัก (เขา) กลับและเขาก็บังเอิญออกไปนอกหน้าต่าง” เขาบอกเพื่อนที่รู้จักกันมานาน

‘ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างและเห็นเขานอนอยู่บนพื้น’

เมื่อเบเกอร์ขึ้นศาล ไม่มีหลักฐานใดที่ แอลเอ็ม ให้มาก็ไม่สามารถยื่นต่อคณะลูกขุนได้ และเขาก็ไม่สามารถบังคับให้ทำเช่นนั้นได้

การยอมรับความผิดที่ทำโดย แอลเอ็ม ก่อนการพิจารณาคดีถูกตัดสินว่าไม่สามารถยอมรับได้ ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่ศาลสูงยึดถือ

หลักฐานของ แอลเอ็ม ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในศาลฎีกาแห่งวิกตอเรีย หากการอุทธรณ์ของเบเกอร์ได้รับอนุมัติ

เป็นที่เข้าใจกันว่า แอลเอ็ม มีแนวโน้มที่จะยื่นขอยกเว้นการดำเนินคดีเมื่อเข้าไปในกล่องพยานในวันที่ 23 สิงหาคม

อัยการไม่เห็นด้วยกับการเสนอราคาของ เบเกอร์ เพื่อขอ แอลเอ็ม ต่อหน้าศาล โดยอ้างว่าศาลไม่มีอำนาจบังคับให้เขาทำเช่นนั้น

ศาลได้ยินว่า แอลเอ็ม บอก เบเกอร์ ว่าเขาจะขึ้นศาลด้วยความเต็มใจ แต่เปลี่ยนใจเพียงไม่กี่วันก่อนที่เขาจะปรากฏตัว

การย้ายครั้งนี้ทำให้เบเกอร์ไล่นาย รูธ แชนน์ เอสซี ซึ่งเป็นทนายความของเขาซึ่งเป็นที่รู้จักว่าเป็นหนึ่งในทนายความที่ดีที่สุดในประเทศและนั่งอยู่ในทีมกฎหมายของ จอร์จ เพลล์

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทนายความคนใหม่ของเขา จูลี่ คอนดอน จาก คิวซี บอกกับศาลว่าการอุทธรณ์ของ เบเกอร์ จะ ‘ร้ายแรง’ หากไม่มีหลักฐานของ แอลเอ็ม พอลทำลายสถิติ

‘เราขอให้เขาอยู่ภายใต้คำสั่ง… มันเป็นนัดสุดท้ายของเขา’ เธอกล่าว

นับตั้งแต่เบเกอร์ได้รับการปล่อยตัวจากคุก เขาชนะการชกทั้งเก้าครั้ง เจ็ดครั้งด้วยการน็อค

เบเกอร์ออกมาจากคุกในสภาพสูงสุดหลังจากปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทางกายภาพที่เข้มงวดซึ่งยังคงดำเนินต่อไปภายนอก

แหล่งข่าวกล่าวว่า เบเกอร์ ไม่เคยใช้ยาและปฏิเสธที่จะดื่ม

คนที่รู้จัก เบเกอร์ กล่าวว่าเขามีธุรกิจที่ยังไม่เสร็จหลังจากที่ความฝันที่จะเป็นตัวแทนของออสเตรเลียในการแข่งขัน Commonwealth Games ถูกขัดขวางโดยการจำคุกของเขา

ย้อนกลับไปในตอนนั้น เบเกอร์เคยอยู่ในตำแหน่งที่คล้ายคลึงกัน โดยชนะการชก 9 ครั้งติดต่อกันด้วยสายตาที่มุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ

‘ผู้คนมักทำให้ฉันผิดหวังเสมอเมื่อตอนที่ฉันยังเด็ก’ เบเกอร์ บอกกับนักข่าวคนนี้ในปี 2005

‘พวกเขาบอกว่าฉันไม่มีค่าอะไรเลย และตอนนี้ฉันกำลังไปถึงที่ที่ทุกคนต่างหวาดกลัว พวกเขาไม่ต้องการให้ฉันไปที่ที่ฉันอยากไป’

ตอนนี้กำลังฝึกซ้อมกับ บิลลี่ฮุสเซน แห่งซิดนีย์และ ปีเตอร์ แฮตตัน แห่งเมลเบิร์นจากเมลเบิร์น มีข่าวลือว่า เบเกอร์ กำลังใคร่ครวญการเลื่อนขึ้นสู่รุ่นรุ่นเฮฟวี่เวท ซึ่งเขาจะได้เผชิญหน้ากับ แบร์รี ฮอลล์ อดีตแบดบอยแอฟแอฟ

เดลี่เมล์ออสเตรเลีย ติดต่อ เบเกอร์ เพื่อขอความคิดเห็น แต่เขาไม่สามารถพูดภายใต้คำแนะนำทางกฎหมายจนกว่ากระบวนการอุทธรณ์ของเขาจะสิ้นสุดลง

ผู้ใกล้ชิดกับเขากล่าวว่าเบเกอร์ยังคงมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตเช่นเดียวกับที่เขาทำเมื่ออายุ 18 ปีที่หิวโหยโหยหาความเคารพทั้งในและนอกสังเวียน

เมื่อไม่ได้ฝึกฝนและต่อสู้ เบเกอร์ ก็ยังคงยุ่งอยู่กับการพูด ซึ่งเขาได้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นด้วยเรื่องราวของเขา

เมื่อไม่ได้พูดถึงนักฟุตบอล เบเกอร์ใช้เวลาพูดคุยกับเด็กๆ ที่อาจประสบปัญหาบางอย่างที่เขาต้องทนเมื่อโตมา

“เขาจะไม่ยอมนั่งตรงนั้นและเป็นเหยื่อ” เพื่อนของเบเกอร์บอกกับ เดลี่เมล์ออสเตรเลีย

‘เขาจะประสบความสำเร็จในเรื่องของเขาและบอกให้คนอื่นรู้ว่าไม่ว่าคุณจะผ่านอะไรมา คุณสามารถกลับมาได้ และมันจะทำให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้นสำหรับเรื่องนี้’